Grey Goose (เกรย์ กูซ) จัดเป็นเหล้าวอดก้าที่มีคุณภาพดี และยังถูกยกว่าเยี่ยมที่สุดในโลกกันอีกด้วย ที่สำคัญยังเป็นแบรนด์ที่ขายดีมากในอเมริกากันเลยทีเดียว หลายคนที่ได้ลองลิ้มชิมรสก็จะรู้สึกติดใจไปตามๆ กัน สำหรับ Grey Goose ถูกคิดค้นและผลิตขึ้นในปี 1996
ที่เกิดจากการหมักบ่มข้าวสาลีในการเก็บเกี่ยวช่วงฤดูหนาว ผสมผสานกับน้ำแร่ที่ไหลผ่านหินลึกลงไปถึง 500 เมตร ในประเทศฝรั่งเศส และผ่านการกลั่นถึง 500 ครั้ง จนได้เหล้ารสเลิศที่มีสีใสบริสุทธิ์ มองแวบแรกอาจนึกว่าเป็นน้ำเปล่ากันเลยทีเดียว
ภาพจาก th.trendexmexico.com
นอกจากข้าวสาลีและน้ำแร่แล้ว วอดก้าตัวนี้ยังมีส่วนผสมของเหล้าอย่าง Cognac อยู่ด้วย ทำให้มีกลิ่นหอมมากยิ่งขึ้น สำหรับกลิ่นที่คุณจะสัมผัสได้เมื่อเปิดขวดก็คือกลิ่นหอมของดอกไม้อ่อนๆ และกลิ่นของวานิลา นอกจากกลิ่นที่ช่วยให้น่าลิ้มลองแล้ว รสชาติก็ยังดีเป็นอย่างมากเมื่อเทียบกับเหล้าอีกหลายประเภท ที่เมื่อแรกดื่มจะขมบาดคอ เพราะหากคุณลองจิบ Grey Goose ในแก้วแรกคุณจะสัมผัสได้ถึงรสชาติที่นุ่มนวลหวานที่ปลายลิ้น
สำหรับวิธีการดื่มอาจต้องขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนประกอบกันด้วยนะคะ ซึ่งหากคุณต้องการสัมผัสรสชาติอย่างเต็มที่ แนะนำให้ดื่มแบบเพรียวๆ จะดีที่สุด แต่ต้องแช่ให้เย็นจัดๆ กันก่อน จากนั้นเปิดขวด แล้วรินใส่แก้วช็อต หากไม่มีใช้แก้วอื่นก็ไม่ว่ากัน
จากนั้นสูดกลิ่นหอมกันสักหน่อยก่อนกระดกแบบทีเดียวหมดแก้ว หรือใครอยากจะค่อยๆ จิบ เติมน้ำแข็งเล็กน้อยก็ได้สุนทรีย์ในการดื่มไปอีกแบบ แต่ถ้าต้องการดื่มแบบผสม ส่วนใหญ่ที่นิยมจะเป็นการผสมกับน้ำผลไม้ หรือน้ำอัดลม สำหรับน้ำผลไม้แนะนำให้ออกรสเปรี้ยวเล็กน้อยอย่างเช่น น้ำส้ม น้ำมะนาว หรือน้ำสับปะรด ก็ช่วยให้ดื่มง่ายและมีรสชาติแปลกไปจากเดิม เรียกได้ว่าอร่อยไปอีกแบบ
ภาพจาก forbes.com
รูปลักษณ์ภายนอกจะเป็นขวดสีขาวสลับกับสีฟ้า แซมด้วยรูปนกพิราบ ดูสวยคลาสสิกดีทีเดียว แค่เห็นขวดภายนอกก็พอจะจินตนาการรสชาติภายในกันได้แล้ว ใครที่ชอบดื่มวอดก้า หรืออาจดื่มกันมาแล้วหลายยี่ห้อ บอกเลยว่าคุณต้องห้ามพลาดทดลองจิบ Grey Goose แล้วคุณจะติดใจจนอาจลืมยี่ห้ออื่นๆ
กันไปได้เลย แต่สนนราคาในบ้านเราก็ไม่ใช่เล่นเช่นกัน เพราะจะอยู่ที่ราวๆ ประมาณ 1,600 บาทต่อขวด กันเลยทีเดียว ซึ่งถ้าเรานำมาเทียบกับรสชาติที่ได้รับแล้วละก็ คุณอาจบอกว่าคุ้มค่ากับราคาที่ต้องจ่ายไป ปัจจุบันยังหาซื้อได้ง่าย เพราะในร้านสะดวกซื้อชื่อดังของบ้านเราก็มีจำหน่ายอยู่ด้วยเช่นกัน ทราบกันแบบนี้แล้วหากกำลังมองหาวอดก้าสักขวดอย่าลืมนึกถึง Grey Goose กันนะคะ และหากสนใจดูขั้นตอนการผลิต คลิกที่นี่กันได้เลยค่ะ >>
#GreyGoose #วอดก้า #เบียร์นอก #คราฟเบียร์