เรื่องของ Johnnie Walker เป็นเหล้าที่เรียกว่าราคาแพงมาก เนื่องจากเป็นเหล้าที่มีการเก็บรักษานานมากกว่าจะเป็นเหล้าให้หลายคนได้ดื่มกัน ซึ่งมีที่มาจากสกอตแลนด์เหมือน The Glenlivet เลยทีเดียว แต่กลิ่นเหล้าของ Johnnie Walker จะแรงกว่ากันมาก
แต่เป็นเหล้านำเข้าที่ราคาสูงมากเลยทีเดียวหากคิดจะครอบครอง Johnnie Walker สักขวด จะต้องควักเงินจ่ายเลยทีเดียวตั้งแต่ราคาเจ็ดพันถึงหลักหมื่นต้นขึ้นไป หากพูดในส่วนการตลาด ต้องยกให้ Johnnie Walker เลยทีเดียว
ในส่วนของ Johnnie Walker เป็นเหล้าซีรีส์เดียวกับ The Walkers สร้างกลยุทธ์ทางการตลาดหลักในปี 1908 ด้วยโฆษณาที่มี Browne’s Striding Man โดยใช้สโลแกน “Johnnie Walker: Born 1820 ยังคงแข็งแกร่ง”
ภาพถ่ายแทนที่ภาพวาดในช่วงทศวรรษที่ 1930 และ Striding Man ถูกย่อขนาดให้เป็นโลโก้สีในปี พ.ศ. 2482 มันปรากฏครั้งแรกบนฉลากของ Johnnie Walker ในปี 2503 ในช่วงปลายทศวรรษที่ 1990 ออกแบบในรูปคนเดินก้าวกลับ เป็นส่วนหนึ่งของสโลแกนว่า “ก้าวต่อไป” เพื่อสื่อเป็นไอคอน Striding Man ถูกวาดใหม่ล่าสุดในปี 2015
(ขอบคุณภาพประกอบ : https://wishbeer.com/)
Johnnie Walker กับอิทธิพลด้านงานบันเทิง
Johnnie Walker มีอิทธิพลมากในด้านวงการบันเทิง จะเห็นได้ในปี 2009 บริษัท โฆษณา Bartle Bogle Hegarty (BBH) ได้สร้างภาพยนตร์สั้นเรื่องใหม่ซึ่งนำแสดงโดย โรเบิร์ต คาร์ไลล์ และกำกับโดย เจมี่ ราฟน์ ในเรื่อง The Man Who Walked Around the World ซึ่งสรุปประวัติความเป็นมาของแบรนด์ Johnnie Walker และกว่าเราจะได้เห็นหน้าตา รวมถึงการเดินทางของ Johnnie Walker ในปัจจุบันอีกด้วย
ในเดือนตุลาคม 2018 Diageo บริษัทด้านเครื่องดื่มมึนเมาของประเทศอังกฤษ (หน้าที่หลักเหมือนกับ ThaiBev ในบ้านเราไม่มีผิด) ร่วมกับ HBO ผลิตวิสกี้ “White Walker by Johnnie Walker ” โดยได้รับแรงบันดาลใจจากกองทัพอันเดดในซีรีส์ทางทีวี Game of Thrones
(ขอบคุณภาพประกอบ : https://wishbeer.com/)
ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการตลาดสำหรับซีรีส์สุดท้ายของซีรีส์ชุดนี้ด้วย จากนั้น Diageo ได้เปิดตัวคอลเลกชั่นวิสกี้มอลต์เดี่ยวที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Game of Thrones ตามด้วยวิสกี้อีก 2 ชนิดโดย Johnnie Walker ในช่วงกลางปี 2019 เรียกกระแสได้ดีเลยทีเดียว
แล้วตอนนี้ Johnnie Walker ตอนนี้เป็นยังไงบ้างนะ
(ขอบคุณภาพประกอบ : https://wishbeer.com/)
ณ ตอนนี้ Johnnie Walker ก็ยังเป็นที่นิยมในกลุ่มผู้ดื่มทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยด้วย Johnnie Walker อาจจะถูกออกแบบมาได้ไม่ค่อยถูกใจในเรื่องรสชาตินัก โดยเฉพาะ Johnnie Walker ในกลุ่ม Black Label ซึ่งเป็นฉลากสีดำ มีอายุการเก็บถึง 12 ปี จะให้กลิ่นวานิลลาอ่อนๆ
ซึ่งเหมาะกับชงเหล้าแบบธรรมดา เพราะจะให้ความรู้สึกสบายเวลาดื่ม Johnnie Walker สูตรนี้ นอกจากนี้หากใครสนใจ สามารถสั่งซื้อได้ที่ร้านสะดวกซื้อ ห้างร้าน และช่องทางออนไลน์ได้แล้ว หากใครไม่เกี่ยงราคาก็สั่ง Johnnie Walker ได้เลย
#JohnnieWalker #BlackLabel #เบียร์นอก #คราฟเบียร์